แม้ว่ากลยุทธ์ของคุณจะไม่ใช้แนวโน้มในการเทรด แต่คุณก็ควรทราบความรู้พื้นฐานเพื่อให้มีคววามเข้าใจในสถานการณ์ตลาดปัจจุบัน วันนี้เราจะให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับแนวโน้ม ซึ่งคุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการเทรดให้ประสบความสำเร็จได้
ประเภทหลักของแนวโน้ม
มีปัจจัยหลายอย่างในการแบ่งประเภทของแนวโน้ม เราจะมาดูที่ปัจจัยหลักสองอย่างคือ ทิศทางและเวลา
มีแนวโน้มหลักอยู่สองประเภทที่ขึ้นอยู่กับทิศทาง:
- ขาขึ้น หรือ bullish - จุดสูงสุดและจุดต่ำสุดมีทิศทางสูงขึ้น
- ขาลง หรือ bearish - จุดสูงสุดและจุดต่ำสุดมีทิศทางต่ำลง
อย่างไรก็ตาม ทิศทางของแนวโน้มมักจะไม่ชัดเจนอยู่ตลอดเวลา โดยส่วนมากราคาจะวิ่งอยู่ในกรอบหรือบางครั้งก็แทบจะไม่วิ่งเลย ตลาดในสภาวะนี้เรียกว่าแบนราบ และคู่สกุลเงินส่วนใหญ่ก็มักจะมีสภาวะแบนราบนี้
แนวโน้มที่ขึ้นอยู่กับเวลาจะแบ่งออกเป็นสามประเภท:
- ระยะยาว
- ระยะปานกลาง
- ระยะสั้น
แนวโน้มที่เหมาะสมสำหรับการเทรดคือระยะยาว เนื่องจากแนวโน้มระยะสั้นมักจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้แนวโน้มยังแบ่งเป็นแนวโน้มที่แข็งแรงและอ่อนแรง โดยทั่วไปคุณสามารถดูแนวโน้มประเภทนี้ได้จากองศาที่เอียงไปจากแนวแกน X หากทำมุม 35-55 องศาแนวโน้มก็จะแข็งแรง หากทำมุมต่ำกว่า 35 องศา แนวโน้มจะอ่อนแรงและสามารถเปลี่ยนทิศทางหรือเป็นแนวราบได้ตลอดเวลา
วิธีการหาแนวโน้ม?
โดยพื้นฐาน แนวโน้มคือทิศทางหลักที่ราคาเคลื่อนที่ไปของคู่ใดคู่หนึ่ง แนวโน้มหลักโดยทั่วไปหาได้โดยดูกราฟที่ timeframe ใหญ่ขึ้น เช่น รายวันหรือรายสัปดาห์ หากว่าดูกราฟที่ timeframe เล็ก แนวโน้มจะเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วในระยะเวลาสั้น ดังนั้นจึงเป็นการยากที่จะหาแนวโน้มหลัก
คุณสามารถหาแนวโน้มได้อย่างถูกต้องเมื่อคุณสังเกตจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดของกราฟว่ามีทิศทางสูงขึ้นหรือไม่ ถ้าในช่วงกราฟ 100-200 แท่งคุณเห็นว่าจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดมีทิศทางสูงขึ้น แนวโน้มจะเป็นขาขึ้น ถ้ามีทิศทางต่ำลงก็จะเป็นขาลง
หากคุณมองรูปกราฟด้านบนคุณจะสังเกตเห็นว่าจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดได้ขยับสูงขึ้นซึ่งหมายความว่าแนวโน้มหลักคือขาขึ้น
ไม่เสมอไปที่เราจะสามารถคาดการณ์แนวโน้มได้ง่ายเนื่องจากสภาวะตลาดมีความหลากหลาย หากคุณคิดว่ามันยากที่จะหาแนวโน้มในสภาวะตลาดปัจจุบัน ให้เปลี่ยนไปเทรดที่คู่อื่นก่อนจนกระทั่งสภาวะตลาดชัดเจนมากขึ้น
รู้ได้อย่างไรว่าแนวโน้มจะเปลี่ยน ?
มีอยู่หลายวิธีที่สามารถใช้ได้ แต่มีสองวิธีต่อไปนี้ที่เป็นวิธีพื้นฐาน:
- การกระจุกตัวอยู่ด้านล่างหรือเหนือระดับปกติ (แนวรับ, แนวต้าน, ค่าเฉลี่ยการเคลื่อนที่ - MA 200)
- ความเปลี่ยนแปลงของปริมาณการเทรด - ในช่วงขาลงปริมาณในการเทรดจะลดลง ในช่วงขาขึ้นปริมาณในการเทรดจะเพิ่มขึ้น หากอัตราเหล่านี้เปลี่ยนก็หมายความว่าแนวโน้มจะเปลี่ยนทิศทางในไม่ช้า
ความเข้าใจและการใช้เทคนิคที่กล่าวไว้ข้างต้นได้อย่างถูกต้องมักจะมาพร้อมกับประสบการณ์ ผู้เทรดหน้าใหม่มักจะใช้อินดิเคเตอร์ที่จะแจ้งความเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มได้โดยอัตโนมัติ
วิธีเทรดบนแนวโน้ม ?
เพื่อให้ลงลึกเกี่ยวกับการเทรดแนวโน้มอีกสักเล็กน้อย เราจะขอแยกหัวข้อออกมา แต่จากที่เรากำลังพูดกันเกี่ยวกับแนวโน้มโดยทั่วไป จึงจำเป็นมากที่จะพูดถึงวิธีทำงานโดยปกติของกลยุทธ์ดังกล่าว
องค์ประกอบสำคัญค่อนข้างเรียบง่าย:
- ในช่วงขาขึ้น ก็เปิดออเดอร์ซื้อจากระดับแนวรับ
- ในช่วงขาลง ก็เปิดออเดอร์ขายจากระดับแนวต้าน
การเทรดแนวโน้มไม่ใช่กลยุทธ์แบบ win-win เช่นเดียวกับกลยุทธ์อื่น ๆ ของฟอเร็กซ์ แต่จากพื้นฐานของรูปแบบนี้ก็มีกลยุทธ์ที่ทำกำไรได้ค่อนข้างหลากหลาย ซึ่งหนึ่งในนี้จะมีกลยุทธ์ที่เข้ากับการเทรดของคุณได้มากที่สุด
เราหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณ ในโอกาสหน้าเราจะพูดถึงเทคนิคที่ใช้ในช่วงการเทรดแนวโน้ม โปรดติดตาม