สำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิค สัญญาณเทรดที่มีโอกาสสูงที่จะได้กำไรนั้นส่วนใหญ่จะเกิดจากการเคลื่อนที่ของราคาที่เป็นรูปแบบต่าง ๆ วันนี้เราจะพูดถึงรูปแบบกราฟที่ได้รับความนิยมมากที่สุดรูปแบบหนึ่ง นั่นก็คือ Head and shoulders
ประเภทของรูปแบบกราฟ
คนทั่วไปคิดว่ารูปแบบ Head and Shoulders นี้พบเห็นได้บ่อยบนกราฟ แต่ว่ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้น รูปแบบ Head and Shoulders ที่สมบูรณ์นั้นพบเห็นได้น้อย เทรดเดอร์บางคนมักจะดูรูปแบบนี้ด้วยกราฟเส้น เนื่องจากว่ามันสามารถดูได้ง่าย
อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ส่วนใหญ่มักจะพบรูปแบบ Head and Shoulders บนกราฟแท่งเทียนญี่ปุ่น แท่งเทียนจะช่วยยืนยันสัญญาณการเกิดรูปแบบของกราฟได้
รูปแบบกราฟจะมีอยู่สองประเภท:
- รูปแบบพื้นฐาน รูปแบบนี้จะเกิดขึ้นหลังจากราคาวิ่งเป็นขาขึ้นและกำลังจะมีการเปลี่ยนเป็นขาลง
- รูปแบบกลับตัว รูปแบบนี้จะตรงข้ามกับรูปแบบแรก จะเกิดขึ้นหลังจากราคาวิ่งเป็นขาลงและเป็นสัญญาณว่ากำลังจะเปลี่ยนเป็นขาขึ้น
โครงสร้างของรูปแบบกราฟทั้งสองประเภท
โครงสร้างของรูปแบบ Head and shoulders ประกอบไปด้วยราคาที่ทำจุดสูงสุดสามยอด โดยราคาจุดสูงสุดตรงกลางจะต้องอยู่สูงกว่าราคาอีกสองจุดด้านข้าง
สำหรับรูปแบบพื้นฐานจะเกิดขึ้นบนแนวโน้มขาขึ้น จุดสูงสุดฝั่งซ้ายและขวาเรียกว่า “ไหล่” ส่วนจุดสูงสุดตรงกลางเรียกว่า “หัว” และเส้นที่ลากระหว่างจุดต่ำสุดของยอดตรงกลางเรียกว่า Neckline ซึ่งเส้นนี้จะเป็นแนวรับ หากราคาวิ่งทะลุลงมาหรือราคาวิ่งมาทดสอบเส้นนี้จะเป็นสัญญาณหลักในการเปิดเทรด
รูปแบบพื้นฐาน Head and Shoulders
สำหรับรูปแบบกลับตัว กราฟจะมีรูปแบบตรงกันข้ามกับรูปแบบพื้นฐาน โดยจะเกิดบนแนวโน้มขาลง ราคาจุดต่ำสุดตรงกลางเรียกว่า “หัว” ส่วนราคาอีกสองจุดข้างซ้ายและขวาราคาจะอยู่สูงกว่าจุดตรงกลาง เรียกว่า “ไหล่” และเส้นที่ลากระหว่างจุดสูงสุดของยอดตรงกลางเรียกว่า Neckline เส้นนี้จะเป็นแนวต้าน ถ้าหากราคาทะลุเส้นนี้จะเป็นสัญญาณหลักในการเข้าเทรด
รูปแบบกลับตัว Head and Shoulders
กลยุทธ์การเทรด
ถ้าหากคุณพบรูปแบบ Head and shoulders นี้แสดงบนกราฟแล้ว จะมีกฎสำคัญอยู่หลายข้อให้คุณทำตาม นี่เป็นวิธีที่จะช่วยให้คุณมีโอกาสได้กำไรเพิ่มขึ้นมากกว่าที่จะขาดทุนอย่างหนัก
สัญญาณเทรดมีอยู่สองสัญญาณด้วยกันคือ:
- สัญญาณทะลุ (Breakout): สำหรับรูปแบบพื้นฐาน ถ้าหากราคาหลุดทะลุเส้น Neckline ลงมาให้เปิดออเดอร์ขาย สำหรับรูปแบบกลับตัว ถ้าหากราคาทะลุแนวต้านที่เส้น Neckline ขึ้นมาให้เปิดออเดอร์ซื้อ คุณสามารถตั้งออเดอร์ไว้ล่วงหน้าเมื่อไหล่ที่สองทำรูปแบบเสร็จแล้ว
- สัญญาณราคาเด้ง Neckline: เมื่อราคาทะลุ Neckline ราคามักจะวิ่งกลับไปที่เส้นนี้เพื่อทดสอบอีกครั้ง มันจำเป็นที่จะต้องรอราคาเด้งจากเส้นนี้ก่อน สำหรับรูปแบบพื้นฐาน เมื่อราคาวิ่งกลับมาทดสอบ Neckline และเด้งลงมาอีกครั้ง ให้เปิดออเดอร์ขาย สำหรับรูปแบบกลับตัว เมื่อราคาวิ่งกลับมาทดสอบ Neckline และวิงขึ้นไป ให้เปิดออเดอร์ซื้อ
เราได้พูดถึงจุดเปิดออเดอร์ไปแล้ว เรามาพูดถึงจุดปิดออเดอร์กัน ระยะทางระหว่างจุด Take Profit ควรจะเท่ากับระยะทางจาก Neckline ไปที่จุดสูงสุดหรือต่ำสุดของหัว (ขึ้นอยู่กับรูปแบบกราฟว่าเป็นรูปแบบพื้นฐานหรือรูปแบบกลับตัว) ถ้าหากคุณไม่ตั้ง TP (ซึ่งเราไม่แนะนำให้ไม่ตั้ง) คุณจะต้องทำการติดตามออเดอร์อยู่ตลอดเวลา ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถปกป้องผลกำไรได้
สำหรับรูปแบบพื้นฐานให้ตั้ง Stop Loss เหนือเส้น Neckline นิดเดียว สำหรับรูปแบบกลับตัวให้ตั้ง Stop Loss ต่ำกว่า Neckline นิดเดียว
ให้จำไว้ว่าราคามักจะวิ่งกลับมาทดสอบ Neckline อีกครั้ง อย่าตกใจ ตลาดมักจะวิ่งไปในทิศทางที่ถูกต้องอีกครั้งหนึ่ง ถ้าหากไม่เป็นตามที่คาดไว้คุณก็มี Stop Loss ไว้ปกป้องเงินทุนของคุณแล้ว
รูปแบบบนกราฟ
การยืนยันสัญญาณเพิ่มเติม
มีหลายวิธีที่จะยืนยันรูปแบบของกราฟดังนี้:
- คุณสามารถใช้ รูปแบบแท่งเทียน ของแท่งจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดเพื่อยืนยันสัญญาณเทรด ตัวอย่างเช่น หากมีรูปแบบ Doji ที่จุดสูงสุดของไหล่ด้านขวาบ่งชี้ว่าการแข็งค่าไม่อาจดันให้ราคาขึ้นไปได้อีก สภาพตลาดมีความไม่แน่นอน ในไม่ช้ากราฟจะเริ่มอ่อนค่าแล้วเคลื่อนที่จนครบรูปแบบ
- คุณอาจติดตามปริมาณการเทรดโดยใช้อินดิเคเตอร์พิเศษ โดยปกติแล้ว ในช่วงที่มีการทำรูปแบบทางด้านซ้ายของ “หัว” นั้น ปริมาณการเทรดจะลดลงเนื่องจากการแข็งค่านั้นอ่อนตัวลง และเมื่อเกิดรูปร่างไปจนถึงด้านขวา ปริมาณการเทรดจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากการอ่อนค่าเข้ามาแทนที่เต็มตัวแล้ว เมื่อราคาผ่านจุดสูงสุดทางด้านขวาของไหล่ ปริมาณการเทรดจะแตะจุดสูงสุดซึ่งทำให้เกิด breakout ของแนวรับที่ Neckline
- ใช้อินดิเคเตอร์ประเภท Oscillator (เช่น อินดิเคเตอร์ RSI) เมื่อราคาออกจากโซน overbought กราฟมักจะอ่อนค่าซึ่งมักจะเกิดบริเวณจุดสูงสุดของไหล่ที่สอง ในกรณีของรูปแบบกลับตัว อินดิเคเตอร์ Oscillator จะเคลื่อนที่ออกจากโซน oversold ซึ่งเป็นสัญญาณการซื้อ
รูปแบบทั้งสองประเภทให้สัญญาณที่ค่อนข้างแม่นยำที่คุณอาจใช้ยืนยันด้วยวิธีต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย รูปแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นในตลาดบ่อยนัก อย่าพลาดโอกาสในการเปิดเทรดหากคุณต้องการจะใช้มัน
หากคุณบังเอิญเจอรูปแบบของไหล่ที่ไม่สมส่วน (ซึ่งมักเกิดได้บ่อยกว่าแบบปกติ) โปรดทราบว่า Neckline นั้นอยู่ในแนวนอนและหัวจะมียอดที่ใหญ่ที่สุด
และนี่คือทั้งหมดที่คุณควรรู้เกี่ยวกับรูปแบบนี้ ขอให้โชคดีในการเทรด !