ในบทความที่แล้วเราได้พูดถึงรูปแบบการกลับตัว - Ascending และ Descending Triangle ไปแล้ว วันนี้เราจะมาพูดถึงรูปแบบ Symmetrical Triangle กัน
รูปแบบนี้มีความซับซ้อนเพิ่มมากขึ้น สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในแนวโน้มขาขึ้นและขาลง การทะลุของราคาและการเคลื่อนที่ของราคาในอนาคตสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกทิศทาง รูปแบบ Symmetrical Triangle นั้นเกิดขึ้นบ่อยกว่า Ascending และ Descending Triangle ดังนั้นคุณควรทราบวิธีในการเทรด
รูปแบบกราฟ
รูปแบบ Triangle นั้นเกิดขึ้นจากการที่เทรดเดอร์มีความไม่แน่นอนสูงในตลาด แรงซื้อและแรงขายมีเท่า ๆ กัน ทำให้ราคานั้นแกว่งอยู่ในกรอบและขนาดของกรอบนั้นจะค่อย ๆ แคบลงเรื่อย ๆ
กรอบข้างของสามเหลี่ยมนั้นจะสร้างขึ้นมาจากราคาสูงสุดและราคาต่ำสุดอย่างน้อยอย่างละสามยอด ขอบด้านบนของสามเหลี่ยมนั้นจะเป็นแนวต้าน ส่วนขอบด้านล่างของสามเหลี่ยมนั้นจะเป็นแนวรับ
กลยุทธ์การเทรด
เนื่องจากรูปแบบ Triangle นี้เป็นรูปแบบที่ราคาสามารถทะลุไปในทิศทางใดก็ได้ ดังนั้น โอกาสที่แนวโน้มจะกลับตัวนั้นก็น้อยลงมาก นี่เป็นเหตุผลว่าเทรดเดอร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าราคาจะทะลุขึ้นในแนวโน้มขาขึ้นและทะลุลงในแนวโน้มขาลง
เทรดเดอร์บางคนเลือกที่จะตั้งออเดอร์ pending ไว้ทั้งสองทางเพื่อสร้างโอกาสในการเทรด เมื่อกรอบของสามเหลี่ยมมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น คุณควรที่จะปรับเปลี่ยนออเดอร์ที่ตั้งไว้
คุณจำเป็นต้องเปิดเทรดในทิศทางที่ราคาวิ่งทะลุกรอบดังนี้ :
- เปิดออเดอร์ซื้อเมื่อราคาวิ่งทะลุแนวต้านขึ้นมา
- เปิดออเดอร์ขายเมื่อราคาวิ่งทะลุแนวรับลงมา
Symmetrical Triangle
- แนวโน้มขาขึ้น
- แนวโน้มขาลง
- จุดสูงสุด
- จุดต่ำสุด
- แนวรับ
- แนวต้าน
- จุดทะลุ - สัญญาณซื้อ
- จุดทะลุ - สัญญาณขาย
จุดออกการเทรดนั้นมีอยู่สองวิธีคือ :
- วัดระยะของฐานของสามเหลี่ยมให้เท่ากับระยะทางจากจุดที่ราคาทะลุไปยังจุดออกการเทรด
- หากราคาทะลุลงมาให้วาดเส้นให้ขนานกับแนวต้าน หากราคาทะลุขึ้นมาให้วาดเส้นให้ขนานกับแนวรับ โดยจุดเริ่มต้นของเส้นคือจุดต่ำสุดหรือจุดสูงสุดของฐานสามเหลี่ยมตามลำดับ เส้นที่วาดคือระยะทางต่ำสุดที่ราคาควรจะวิ่งไปถึง
จุดออกของ Symmetrical Triangle
- แนวต้าน
- จุดทะลุด้านล่าง
- จุดล่างของฐาน
- เส้นเป้าหมายสำหรับออเดอร์ขาย
- แนวรับ
- จุดทะลุด้านบน
- จุดบนของฐาน
- เส้นเป้าหมายของออเดอร์ซื้อ
ข้อมูลเพิ่มเติมที่มีประโยชน์
- การเทรดในรูปแบบ Triangle นั้นมีความอันตรายสูงมาก เนื่องจากความผันผวนลดลงอย่างต่อเนื่อง ยิ่งไปกว่านั้นคือคุณจะไม่รู้ทิศทางของการ breakout
- โดยปกติแล้ว การ breakout มักเกิดขึ้นระหว่างกึ่งกลางและ ¾ ของ Triangle หากราคาเคลื่อนที่เข้าไปในส่วนสุดท้ายของ Triangle โอกาสที่จะเกิด breakout ก็จะลดลงอย่างมาก โดยส่วนมาก ราคาจะค่อย ๆ ออกจากรูปแบบนี้และแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นก็จะไม่แน่นอน
- หากราคากลับตัวโดยไม่แตะด้านใดด้านหนึ่งของ Triangle เลย โอกาสที่จะเกิด breakout อย่างรวดเร็วก็จะเพิ่มขึ้น
- False breakout มีโอกาสเกิดขึ้นได้ ควรรอจนกว่าแท่งเทียนจะปิดลง หากราคาปิดอยู่นอก Triangle คุณก็อาจเปิดออเดอร์ในทิศทางเดียวกับการเคลื่อนไหวของแท่งเทียน
- ในระหว่างการก่อตัวของรูปแบบ Triangle ปริมาณการเทรดจะลดลง และในช่วงที่มีการ breakout ปริมาณก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
Expanding Triangle
สุดท้าย เราจะพูดถึง Triangle อีกประเภทหนึ่งที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเหมือนรูปแบบอื่น ๆ เท่าไหร่
Expanding Triangle
- ปลายยอด
- แนวต้าน
- แนวรับ
- ฐาน
บางคนคิดว่าการเทรดในรูปแบบ Triangle นั้นอันตรายเกินไปเนื่องจากการเคลื่อนที่ของราคายังไม่แน่นอน บางคนชอบเปิดออเดอร์ใกล้กับฐานมากกว่าเพราะกำไรที่อาจเกิดขึ้นจะเพิ่มขึ้นพร้อมกับความผันผวนเมื่อเกิดการสวิงใหม่ในแต่ละครั้ง ซึ่งคุณสามารถเลือกใช้กลยุทธ์ได้ตามใจชอบ