เป็นเรื่องยากที่จะแยกข้อมูลที่ถูกต้องได้ มีเพียงเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ในการเทรดฟอเร็กซ์มากกว่าหลายพันชั่วโมงที่สามารถแยกแยะข้อมูลที่ถูกต้องได้ เทรดเดอร์มือใหม่ต้องหาผู้สอนที่มีประสบการณ์เพื่อช่วยเหลือในด้านนี้
วันนี้เราจะบอกคุณถึงความลับในการเทรดสกุลเงินบางอย่างที่คนส่วนใหญ่มักจะไม่พูดถึง สิ่งนี้จะช่วยให้คุณมีความเข้าใจเกี่ยวกับฟอเร็กซ์มากขึ้น
ทำไมคุณถึงต้องการสิ่งนี้
คนบางคนชอบที่จะค้นหาข้อมูลเรื่องบางเรื่องอย่างละเอียด ในขณะที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่เชื่อว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเจาะลึกถึงรายละเอียดทุกอย่างเกี่ยวกับตลาดแลกเปลี่ยนสกุลเงิน สิ่งแรกที่เขาต้องการคือการมีกลยุทธ์การเทรดที่สามารถทำกำไรให้เขาได้เท่านั้น ซึ่งคนส่วนใหญ่จากกลุ่มนี้คือ 1 ในเทรดเดอร์จำนวน 90% ที่ไม่ประสบความสำเร็จในฟอเร็กซ์
เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จนั้นมักจะมีนิสัยชอบค้นหาความจริง เขาจะไม่เชื่อในสิ่งใดง่าย ๆ เขาทำการศึกษาอย่างละเอียด ตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบ สำหรับ “ระบบเทรดที่สามารถทำเงินได้หลายร้อยดอลลาร์ต่อเดือน” หากเป็นเทรดเดอร์ทั่วไปจะเริ่มใช้งานในการเทรดจริงทันทีซึ่งจะทำให้เขาเหล่านั้นขาดทุนอย่างแน่นอน สำหรับเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จนั้นจะทำในสิ่งที่แตกต่างกันดังนี้:
- หาข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับระบบเทรดนี้
- เข้าไปในเว็บไซต์เพื่อพูดคุยกับเทรดเดอร์ที่เคยใช้ระบบเทรดนี้มาก่อน
- ทดลองเทรดที่บัญชีเดโมเพื่อทดสอบว่าระบบเทรดนี้มีการทำงานเป็นอย่างไรและเหมาะสมกับเขาหรือไม่
- เทรดที่บัญชีเทรดจริงพร้อมกับวิเคราะห์ระบบเทรดเพื่อทำการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมหากจำเป็น
ตามที่คุณได้เห็น สิ่งสำคัญที่นำมาสู่ความสำเร็จคือความเข้าใจในทุกสิ่ง นี่เป็นเหตุผลที่เราต้องการบอกคุณว่าคุณจะต้องเจอกับอะไรในฟอเร็กซ์ คุณไม่ต้องเชื่อเรา คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวข้อที่เราจะพูดถึงได้แน่นอน 100%
ค่าธรรมเนียมนั้นสำคัญ
เทรดเดอร์หลายคนไม่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับค่าสเปรด, คอมมิชชั่น และสวอป คิดว่ามันเป็นเพียงไม่กี่จุดเท่านั้น จริงหรือไม่ ? เรามาคำนวณกัน สมมติเดย์เทรดเดอร์ที่เปิดเทรด 5 ออเดอร์ต่อวัน แต่ละออเดอร์เทรดที่ 0.5 lot หากเทรดที่คู่ EURUSD ที่มีค่าสเปรด 1 pip คุณจะเสียค่าสเปรด $5 ต่อออเดอร์ และใน 1 วันคุณจะเสียค่าสเปรดไปถึง $25
สำหรับเทรดเดอร์ประเภท Scalper ยิ่งมีการเปิดเทรดมากขึ้น แม้กระทั่งเปิดด้วยจำนวน lot น้อย เทรดเดอร์จะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเป็นจำนวนมาก หากเป็นเทรดเดอร์ประเภท Scalper คุณต้องทำกำไรให้ได้หลายออเดอร์ต่อวันเพียงเพื่อให้เท่าทุนกับค่าธรรมเนียมที่เสียไป
นี่เป็นเหตุผลว่า ก่อนที่คุณจะเลือกวิธีการเทรด, สกุลเงิน, และประเภทบัญชี คุณควรจะศึกษาเกี่ยวกับค่าคอมมิชชั่น, สวอป, และสเปรดก่อน โดยทั่วไปเทรดเดอร์ที่เทรดแบบสวิงหรือเทรดระยะยาว ค่าธรรมเนียมจะเสียน้อยกว่าเนื่องจากมีการเปิดเทรดไม่บ่อยมาก
เดย์เทรดไม่ได้เป็นตัวเลือก #1 สำหรับผู้เชี่ยวชาญ
เทรดเดอร์ส่วนใหญ่เทรดแบบเดย์เทรด คือการเทรดในจบภายในหนึ่งวัน ดูเหมือนว่าการเทรดแบบนี้เป็นสูตรสำเร็จของความสำเร็จ เทรดเดอร์เหล่านี้เฝ้ามองกราฟอยู่ตลอดเวลาทั้งวันทั้งคืนไม่ว่าตลาดจะวิ่งไปทางใด เทรดเดอร์ฟอเร็กซ์ที่ประสบความสำเร็จดูเหมือนกับเป็นฉลามในวอลสตรีท
แต่การเทรดแบบนี้ดูขัดแย้งกับข้อดีของฟอเร็กซ์ นั่นก็คือหาสามารถหารายได้และใช้ชีวิตที่มีความสุขได้ในเวลาเดียวกัน แต่คุณจะมีความสุขหรือหากคุณต้องเฝ้าหน้าจออยู่ตลอดเวลา ?
เทรดเดอร์ที่เทรดแบบเดย์เทรดและเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จสามารถทำกำไรได้หลายพันดอลลาร์นั้นยังคงเป็นคำถามว่าจริงหรือไม่ ดูเหมือนว่ามีความขัดแย้งกันแต่ยิ่งคุณใช้เวลาเฝ้าหน้าจอมากขึ้นคุณก็จะได้รับกำไรน้อยลง
คุณต้องการทราบว่าผู้เชี่ยวชาญนั้นเทรดกันอย่างไรหรือไม่ ? โดยทั่วไปเทรดเดอร์ที่เทรดแบบสวิงหรือเทรดระยะยาวนั้นประสบความสำเร็จมากที่สุดสำหรับฟอเร็กซ์ แต่ละออเดอร์จะกินเวลานานหลายวันหรือหลายสัปดาห์และสามารถทำกำไรได้โดยมีความเสี่ยงต่ำ เทรดเดอร์เหล่านี้เปิดกราฟสองสามครั้งต่อวันและใช้เวลาไม่กี่นาทีเท่านั้นในการหาสัญญาณเทรดและทำการเทรด การเทรดประเภทนี้เรียกว่า “เก็บผลไม้ที่ห้อยอยู่ต่ำกว่า” การเทรดจะมีสัญญาณชัดเจนและโอกาสในการได้กำไรจะสูงกว่าการเทรดแบบอื่นทั่วไป
หากคุณใช้เวลามองหาสัญญาณเทรดแต่ละครั้งเป็นเวลานานและยังไม่ประสบความสำเร็จ โอกาสในการได้กำไรน้อย การทำแบบนี้จะยิ่งมีผลเสียกับคุณ ยิ่งคุณมองกราฟนานเท่าไหร่ คุณจะขาดทุนมากขึ้น
สิ่งที่เราบอกทั้งหมดนี้คืออะไร ? ถ้าหากคุณต้องการเป็นเทรดเดอร์ผู้เชี่ยวชาญ ให้พิจารณาการเทรดประเภทสวิงหรือการเทรดระยะยาว การเทรดประเภทนี้มีข้อดีกว่าการเทรดแบบเดย์เทรดดังนี้:
- สำหรับกราฟที่ timeframe ใหญ่กว่า จะมีสัญญาณหลอกน้อยกว่า ดังนั้นคุณจะเปิดเทรดได้น้อยกว่า แต่มีโอกาสในการทำกำไรมากขึ้น
- บนกราฟราย 4 ชั่วโมงและกราฟรายวัน ราคาจะมีความผันผวนน้อยกว่าและลดโอกาสในการถูกปิดออเดอร์ด้วย Stop Loss
- อัตราความเสี่ยงต่อกำไรจะดีขึ้นเนื่องจากกราฟที่ timeframe ใหญ่จะผันผวนน้อย
- สัญญาณเทรดที่กราฟรายวันจะมีความถูกต้องมากขึ้นเมื่อเทียบกับกราฟรายชั่วโมง
- เมื่อคุณเปิดเทรดน้อย คุณจะเสียค่าธรรมเนียมในการเทรดน้อยลงไปด้วยตามที่ได้กล่าวมาแล้ว
- เมื่อคุณทำการเทรดระยะยาวมากขึ้น คุณจะมีเวลาในการวิเคราะห์และคาดการณ์ผลการเทรดมากขึ้น คุณสามารถปิดออเดอร์ที่คาดว่าจะขาดทุนแน่นอนเพื่อปกป้องเงินทุนไว้ได้
- การเทรดระยะยาวมากขึ้นคุณสามารถจัดการกับอารมณ์ของคุณได้มากขึ้นด้วย
- การเทรดแบบสวิงและการเทรดระยะยาวจะทำการเทรดเพียงแค่ไม่กี่ครั้งในหนึ่งเดือน ซึ่งจะช่วยไม่ให้เทรดมากเกินไปได้
- ผลกำไรที่ได้รับสำหรับการเทรดแบบสวิงและการเทรดระยะยาวนั้นมีมากกว่าการเทรดแบบเดย์เทรดหรือ scalping เป็นจำนวนมาก
- การเทรดแบบสวิงและการเทรดระยะยาวใช้เวลาน้อยกว่าการเทรดประเภทอื่นมาก
นี่เป็นเพียงแค่บางอย่างที่เรานำมาบอกให้คุณทราบเกี่ยวกับการเทรดสกุลเงิน ให้คุณติดตามต่อไปสำหรับความลับอื่น ๆ เพิ่มเติม