คุณต้องทำการตัดสินใจมากแค่ไหนก่อนที่คุณจะได้เปิดเทรดเป็นครั้งแรกในตลาดฟอเร็กซ์ได้? คู่ไหนที่คุณเลือกใช้เทรด? การวิเคราะห์แบบไหนที่คุณเลือก? กลยุทธ์การเทรดแบบไหนที่คุณใช้?
คำถามสุดท้ายอาจจะตอบยากที่สุดเนื่องจากมีกลยุทธ์การเทรดมากมายหลายพันกลยุทธ์ให้เลือกใช้ ลองเริ่มจากหัวข้อกลยุทธ์ก่อนว่าคุณใช้ลักษณะการเทรดแบบไหนบ้าง ซึ่งมีอยู่ไม่กี่แบบด้วยกันคือ:
- Scalping
- High-Frequency trading
- Position trading
- Day trading
- Swing trading
จะเห็นว่าการเลือกรูปแบบกลยุทธ์จากประเภทหลัก 5 ประเภทนี้ง่ายกว่า วันนี้เราจะพูดถึงการเทรดแบบสวิง เราจะดูว่าข้อดีข้อเสียคืออะไร มีวิธีการเทรดเป็นอย่างไร และพิจารณาว่าการเทรดรูปแบบนี้เหมาะสมกับคุณหรือไม่ เรามาเริ่มกันเลย
การเทรดแบบสวิงคืออะไร?
จากชื่อ คุณอาจจะเดาว่าการเทรดแบบสวิงคือการเทรดที่มีพื้นฐานอยู่บนการเคลื่อนที่ขึ้นลงของราคา จุดประสงค์ของการเทรดรูปแบบนี้คือการเข้าเทรดเมื่อราคาวิ่งขึ้นหรือลง และทำการถือออเดอร์จนกว่าราคาจะกลับตัว
แน่นอนว่ามันดีที่สุดถ้าสามารถเข้าเทรดในจุดเริ่มต้นของการสวิงได้ แต่นี่ไม่ควรเป็นเป้าหมายหลัก เป้าหมายหลักคือให้การเทรดอยู่ในช่วงของการสวิงให้ได้มากที่สุด
การเทรดแบบสวิงจะคลายกับเดย์เทรด แต่การเทรดแบบสวิงนั้นสามารถถือออเดอร์ข้ามวันเช่นหลายวันหรือหลายสัปดาห์ได้ นอกจากนั้นโอกาสที่ดีในการเทรดแบบสวิงนั้นจะมีแค่ไม่กี่ครั้งในหนึ่งเดือน แต่การเทรดแต่ละครั้งจะได้รับกำไรในปริมาณที่สูง
เรามาดูกันว่าการเทรดแบบสวิงมีวิธีการอย่างไร
ใช้กราฟรายวัน
กราฟที่ timeframe ต่ำดูเหมือนจะน่าสนใจกว่าเพราะว่าราคามีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา แต่จำไว้ว่าการเทรดแบบสวิงนั้นจะใช้เวลามากกว่าหนึ่งวัน ซึ่งนี่เป็นเหตุผลที่สำคัญที่ใช้กราฟรายวันในการเข้าเทรด
ใน timeframe นี้จะง่ายกว่าในการหาแนวโน้มหลักและตั้งแนวรับและแนวต้าน หากปราศจากสิ่งนี้ คุณจะไม่สามารถหากโอกาสเทรดแบบสวิงให้ได้กำไรได้
ถ้าหากคุณต้องการเทรดที่ timeframe ต่ำกว่านี้ คุณสามารถเปลี่ยนไปใช้กราฟราย 4 ชั่วโมงได้ หากคุณเทรดบนกราฟรายวันแล้วเริ่มได้รับกำไร
หาระดับราคาที่สำคัญ
นี่อาจจะเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากที่สุดในการเทรดแบบสวิง คุณเข้าเทรดโดยการดูที่ระดับราคาต่างๆนี้ ระดับราคาที่คุณจำเป็นต้องใช้คือ:
- แนวโน้มหลัก
- แนวรับและแนวต้าน
การเทรดรูปแบบนี้ขึ้นอยู่กับทิศทางของตลาด คุณทำการซื้อเมื่อราคาเป็นขาขึ้น และทำการขายเมื่อราคาเป็นขาลง แน่นอนว่าจะมีช่วงที่ตลาดวิ่ง sideway ซึ่งบางครั้งอาจจะเป็นโอกาสที่ดีในการเทรดแบบสวิงได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จะขึ้นอยู่กับระดับของการขึ้นลงของราคาว่ามากแค่ไหน คุณไม่ควรจะเสี่ยงเทรดหากมีระดับการขึ้นลงของราคาที่แคบ
การเปิดออเดอร์ที่ Pin Bar
จำไว้ว่าด้วยรูปแบบการเทรดเช่นนี้ คุณก็จะพบกลยุทธ์ในการเทรดด้วยเช่นกัน การเทรดที่ pin bar ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่คุณสามารถใช้กับการเทรดแบบสวิงได้
ที่แนวโน้มเป็นขาขึ้น คุณควรหา pin bar ที่ระดับแนวรับสำคัญ เมื่อราคาเริ่มวิ่งขึ้นหลังจาก pin bar ก็เปิดออเดอร์ buy
และด้านล่างแนวโน้มก็เช่นกัน เมื่อคุณเห็นแนวต้านสำคัญ pin bar คุณก็ควรเปิดออเดอร์ sell
ไม่ต้องกังวลหากคุณพลาดราคาตลาดในช่วงที่ pin bar เริ่มมีการเกิดขึ้น หากราคาไม่วิ่งไปไกลจากระดับราคาหลัก คุณก็สามารถเปิดออเดอร์ได้อย่างอิสระ ขอย้ำอีกครั้งว่า สิ่งสำคัญสำหรับเราคือการเข้าจับส่วนที่ใหญ่ที่สุดของช่วงสวิง
เมื่อไหร่จึงควรปิดออเดอร์ ?
เนื่องจากการเทรดแบบสวิงมักจะถือออเดอร์ทิ้งไว้หลายวัน คุณจึงไม่สามารถเฝ้าหน้าจอได้ ดังนั้น การกำหนดจุดปิดออเดอร์ด้วยการตั้งค่า Take Profit จึงสำคัญมาก ซึ่งสามารถทำได้ค่อนข้างง่าย โดยใช้ระดับแนวรับและแนวต้านสำคัญที่คุณมีบนกราฟ หากคุณเปิดออเดอร์ buy ที่เหนือแนวโน้ม การตั้งค่า Take Profit ควรอยู่บริเวณแนวต้านสำคัญ และหากคุณเปิดออเดอร์ sell ไว้ด้านล่างแนวโน้ม ก็ควรปิดออเดอร์ที่บริเวณแนวรับสำคัญ
การจัดการความเสี่ยง
ทุกคนมีวิธีการตั้งค่า Stop Loss ของตัวเอง แน่นอนว่าคุณเองก็สามารถใช้แนวทางของคุณได้ แต่สำหรับการเทรดบน pin bar แล้ว จุดที่สมบูรณ์แบบของระดับนี้ก็คือเหนือหรือล่างส่วนหางของ pin bar ที่จุดสวิง (สูงหรือต่ำ)
ก่อนจะเปิดออเดอร์ ควรระบุอัตราความเสี่ยง/กำไรก่อน เมื่อคุณรู้จุดที่จะเข้าเทรด รวมทั้งระดับ Stop Loss และ Take Profit อย่างแน่ชัดแล้ว คุณสามารถคำนวณว่าคุณอาจขาดทุนหรือได้กำไรกี่จุดด้วย
อัตราที่เหมาะสมก็คือ 1:3 ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณจะขาดทุน 50 จุดกับการเทรดนี้ กำไรที่อาจเกิดขึ้นได้ก็ควรจะเป็นอย่างน้อย 150
ข้อดีและข้อเสียของการเทรดแบบสวิง
แต่ละวิธีก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ดังนั้น หากไม่พูดถึงอุปสรรค การเทรดแบบสวิงก็มีข้อดีดังต่อไปนี้:
- มีจังหวะให้เทรดสวิงอย่างเหมาะสมเพียงไม่กี่ครั้ง คุณจึงประหยัดค่าคอมมิชชันและค่าสเปรด
- สามารถเทรดที่แนวโน้มแบบใดก็ได้
- ออเดอร์ค่อนข้างปลอดภัย เนื่องจากคุณเทรด price action ที่มีรูปแบบเรียบร้อยแล้ว
- การเทรดระยะยาวทำให้มีเวลาเหลือเยอะ
- ไม่จำเป็นต้องเฝ้าจอตลอดเวลา ความเครียดก็ลดลง
ข้อเสียของการเทรดแบบนี้:
- ความเสี่ยงนั้นมีความเกี่ยวข้องกับการถ่ายโอนออเดอร์ไปในวันหรือสัปดาห์ทำการเทรดถัดไป ซึ่งมีผลกับการเทรดสวิงของคุณด้วย
- คุณอาจถูกเก็บค่า swap เมื่อมีการถ่ายโอนออเดอร์ไปในวันทำการเทรดถัดไป
การเทรดแบบสวิงเหมาะกับคุณหรือไม่ ?
คุณอาจยอมรับหรือปฏิเสธการเทรดแบบนี้ก็ตามแต่หากคุณไม่แน่ใจ ข้อมูลด้านล่างนี้อาจช่วยคุณตัดสินใจได้
การเทรดแบบสวิงเหมาะกับคุณหาก:
- คุณพร้อมที่จะถือออเดอร์นานเกินหนึ่งวันหรือไม่
- คุณไม่สนใจว่าการตั้งค่าการเทรดที่เหมาะสมอาจสวนทางครั้งสองครั้งต่อเดือน
- คุณต้องมีเวลาว่างมากพอและ/หรือคุณอาจควบรวมฟอเร็กซ์เข้ากับงาน การเรียนอื่น ๆ หรือการดูแลครอบครัว
คุณควรเลิกสนใจการเทรดแบบนี้หาก:
- คุณชอบการเทรดแบบคล่องแคล่วที่ต้องมีการลงมืออยู่ตลอด
- คุณต้องการรู้ว่ารายการเทรดทำงานได้ดีอยู่หรือไม่
- คุณไม่สามารถถือออเดอร์ในช่วงที่ขาดทุนได้และมักจะปิดทิ้งก่อนที่มันอาจให้ผลในทางบวกก็ได้
ข้อมูลค่อนข้างมาก ใช่หรือไม่ ? แต่ไม่มีใครพูดเลยว่าฟอเร็กซ์นั้นเทรดง่าย
การเทรดแบบสวิงนั้นเหมาะกับทั้งผู้เริ่มต้นและผู้ที่มีประสบการณ์ เราหวังว่าข้อมูลในบทความนี้จะช่วยให้คุณเห็นข้อดีของการเทรดแบบสวิงและได้มอบพื้นฐานที่จำเป็นต่อการเริ่มต้นที่ดีกับคุณ