เทคนิคนั้นมีมากมายซึ่งไม่สามารถพูดได้หมดในบทความนี้ วันนี้เราจะพูดถึงเทคนิคบางอย่างและที่เหลือจะพูดในบทความถัดไป
เริ่มจากการเตรียมตัว
ถ้าหากคุณจริงจังกับอาชีพเทรดฟอเร็กซ์ การเทรดจะเข้ามาอยู่ในกิจวัตรประจำวันของคุณ ในทุกๆเช้าให้คุณเริ่มต้นด้วยการให้เวลาวิเคราะห์กราฟรวมถึงสภาพตลาดและหาโอกาสที่เหมาะสมในการเข้าเทรด
คุณต้องเตรียมตัวทั้งร่างกายและจิดใจ สำคัญมากที่ร่างกายของคุณจะต้องแข็งแรง ดังนั้น ให้ใช้เวลาในการออกกำลังกายก่อนที่จะเริ่มเปิดกราฟดู วิธีนี้จะช่วยให้สมองของคุณตื่นเต็มที่และพร้อมที่จะทำงาน 100%
ให้ความสนใจในชั่วโมงแรก
กลยุทธ์ที่เหมาะสมคือการเทรด price action ในการที่จะเทรดให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี คุณจำเป็นต้องทำการประเมินสภาพตลาดก่อน ชั่วโมงแรกของการเทรดจะเป็นตัวชี้วัดที่ดี เป็นเวลาที่ออเดอร์ที่ตั้งไว้ได้ถูกประมวลผลและเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ได้เข้ามาในตลาดแล้ว
ให้คุณแน่ใจว่าได้ทำการวิเคราะห์ตลาดในช่วงนี้แล้ว วิธีนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าสภาพตลาดตอนนี้เป็นอย่างไร - ขาขึ้นหรือขาลง
เทรดตามแนวโน้มหลัก
การเทรดตามแนวโน้มถือว่าเป็นวิธีการเทรดที่ไว้วางใจได้มากที่สุด หากแนวโน้มเป็นขาขึ้น คุณทำการซื้อ หากแนวโน้มเป็นขาลง ให้ทำการขาย เนื่องจากตลาดฟอเร็กซ์มีความผันผวนสูง เป็นสิ่งที่สำคัญมากที่จะต้องหาแนวโน้มหลักบนกราฟที่ timeframe ใหญ่ให้ได้ ให้วาดเส้นแนวโน้มของจุดสูงสุดและจุดต่ำสุด หากเส้นมีทิศทางสูงขึ้นจะเป็นแนวโน้มขาขึ้น หากเส้นต่ำลงจะเป็นแนวโน้มขาลง
หากคุณชอบที่ timeframe ต่ำ ให้ทำกระบวนการนี้อีกครั้งที่กราฟราย 4 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม จำไว้ว่าสัญญาณจากกราฟรายวันนั้นเชื่อถือได้มากกว่า
ลองเทรดสวนแนวโน้ม
กลยุทธ์นี้เสี่ยงกว่าการเทรดตามแนวโน้ม อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์นี้จะช่วยสร้างโอกาสในการเทรดได้มากขึ้น ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มผลกำไรได้
หัวใจหลักของการเทรดสวนแนวโน้มคือการขายเมื่อราคาได้เด้งลงมาจากจุดสูงสุด และซื้อเมื่อราคาสูงขึ้นหลังจากเด้งมาจากจุดต่ำสุด ให้จำไว้ว่าการเทรดแบบนี้เป็นการเทรดระยะสั้น ดังนั้นคุณจำเป็นต้องทำการเฝ้ามองหน้าจอเทรดตลอดเวลาหรือใช้ stop loss ที่สั้นแทน
ดูปฏิทินเศรษฐกิจ
การดูปฏิทินเศรษฐกิจเพื่อตรวจสอบว่าข่าวสำคัญต่อไปจะมาเมื่อไหร่นั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นในกิจวัตรการเทรดของคุณ ในช่วงเวลานี้ ตลาดจะไม่สามารถคาดการณ์ได้ ดังนั้นคุณต้องทำการเตรียมตัวล่วงหน้า เทรดเดอร์หลายคนมีการใช้กลยุทธ์การเทรดสำหรับช่วงข่าวออกโดยเฉพาะ แต่ข่าวบางข่าวจะทำให้ราคาวิ่งแรงมาก ดังนั้นเป็นสิ่งที่ดีหากจะหลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงนี้ไปเลย
พึ่งกฎ 1-2%
นี่เป็นหนึ่งในกฎที่สำคัญมากของแผนการจัดการความเสี่ยง มันจะบอกว่าคุณไม่สามารถเสี่ยงได้มากกว่า 2% ของเงินทุนในแต่ละออเดอร์ ตัวอย่างเช่น หากคุณมี $5,000 ในบัญชีเทรด คุณก็สามารถขาดทุนได้ไม่เกิน $100 สำหรับการควรคุมความเสี่ยงเช่นนี้ คุณสามารถใช้การตั้ง Stop Loss ได้ คุณควรคำนวณว่าควรตั้งค่า SL ห่างจากระดับเข้าออเดอร์เทรดในจุดใด โดยพิจารณาจากขนาดของออเดอร์
ทำไมต้องทำเช่นนี้ ? ที่ฟอเร็กซ์ คุณสามารถขาดทุนได้เยอะมาก ผู้เข้าร่วมเทรดทุกคนต่างก็ทำเช่นนี้ หากคุณเสี่ยงไม่เกิน 2% จากเงินทุนแล้ว แม้จะต้องขาดทุน 5 ออเดอร์ คุณก็จะขาดทุนแค่ 10% ของยอดเงิน หากคุณเสี่ยง 10% ในครั้งเดียว ในสถานการณ์เดียวกัน คุณจะสูญเงินลงทุนไปเพียงครึ่งเดียว
หากคุณไม่สามารถคำนวณได้ คุณก็สามารถใช้เครื่องมือช่วยเทรดได้ การรู้มูลค่าของหนึ่ง pip ของออเดอร์คุณจะทำให้คุณตั้งค่า Stop Loss ในระยะห่างได้ตามต้องการ
ตั้งค่าอัตราส่วนความเสี่ยงต่อกำไรเป็น 1:3
คุณมักจะต้องเสี่ยงกับการเสียเงินที่ฟอเร็กซ์อยู่เสมอ ก่อนเข้าเทรดจึงควรประเมินว่ามันคุ้มค่าต่อการเปิดออเดอร์หรือไม่ โดยคำนวณว่าคุณสามารถทำกำไรได้เท่าไหร่และคุณอาจขาดทุนเท่าไหร่ การเทรดที่ดีที่สุดคือจุดที่คุณสามารถทำกำไรได้ถึงสามเท่าของยอดขาดทุน
การประเมินด้วยอัตราส่วนดังกล่าว คุณจะต้องตัดสินใจว่าจะตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit ไว้ที่ระดับใด ระยะห่างจาก TP จะต้องเป็นสามเท่าจากระยะห่างของ SL ตัวอย่างเช่น หากคุณตั้ง Stop Loss ไว้ที่ 10 pip จากจุดเปิดออเดอร์ ก็ควรตั้งค่า Take Profit ให้ห่างอย่างน้อย 30 pip
ควบคุมความเสี่ยงด้วย Stop Loss
จากเคล็ดลับบางข้อด้านบนนี้ คุณคงเข้าใจแล้วว่าคุณไม่ควรเทรดโดยปราศจากการตั้ง Stop Loss ขอให้ใช้มันตามนั้นจริง ๆ กับการเทรดแต่ละครั้ง แม้ว่าคุณจะเฝ้าการเทรดอยู่ที่หน้าจอก็ตาม สถานการณ์ในตลาดสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วจนทำให้คุณสูญเงินได้หลายร้อยดอลลาร์ภายในไม่กี่วินาที ซึ่ง Stop Loss ก็จะช่วยปิดออเดอร์ให้คุณโดยอัตโนมัติในเวลาที่ถุกที่ควร
และนี่คือเคล็ดลับทั้งหมดสำหรับวันนี้ เราหวังว่ามันจะช่วยให้คุณเทรดฟอเร็กซ์ได้สะดวกและราบรื่นขึ้น ขอให้คุณโชคดี แล้วพบกันใหม่ในหัวข้อถัดไป