การตั้งค่า
เหมือนกับกลยุทธ์อื่นทั่วไป กลยุทธ์ “Cherry Blossom” จะใช้ได้กับเงื่อนไขเฉพาะตัวเท่านั้น:
- Timeframe: H1
- คู่สกุลเงิน: USDJPY, AUDUSD, AUDJPY, AUDNZD, NZDUSD, NZDJPY
- เวลาเทรด: ช่วงตลาดเอเชียเปิดทำการ
- วันเทรด: วันจันทร์ถึงวันพฤหัส
- เครื่องมือเพิ่มเติม: Fibonacci level
รูปแบบของ “Cherry Blossom”
คนที่เทรดตามแนวโน้มจะทราบว่าแนวโน้มมักจะไปต่อ และนี่เป็นพื้นฐานที่เราจะใช้เทรด เราจะเริ่มทำการเทรดที่ช่วงเริ่มต้นเวลาเปิดของตลาดเอเชีย และนี่เป็นเหตุผลที่เราเทรดสกุลเงินเยนของญี่ปุ่น, ดอลลาร์ออสเตรเลีย, และดอลลาร์นิวซีแลนด์
โอกาสที่วันต่อไปราคามักจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกันกับวันก่อนหน้านั้นจะมีสูงกว่าโอกาสที่จะทำการกลับตัว หากแท่งกราฟรายวันวิ่งเกินกว่า 30 จุดในทิศทางเดียว โอกาสที่แนวโน้มจะวิ่งต่อก็จะมีสูง เช่น หากแท่งกราฟรายวันตกลงมา ราคาก็จะมีโอกาสตกลงมาในช่วงเวลาที่ตลาดเอเชียเปิด หรือหากแท่งกราฟสูงขึ้นเกินกว่า 30 จุด ราคาก็จะมีโอกาสวิ่งขึ้นไปต่อ
รายละเอียดของกลยุทธ์
เปิดกราฟรายชั่วโมงของคู่เทรดจากรายการด้านบน จากนั้น เพื่อควาสะดวกคุณอาจขีดเส้นแนวตั้งเพื่อดูช่วงเวลาเริ่มต้นและช่วงสิ้นสุดวันเทรด กดปุ่ม Ctrl + Y เพื่อตั้งตัวแบ่งวันเทรดในโปรแกรม MetaTrader4
เราจะเริ่มลงมือในช่วงปิดแท่งเทียนรายวันตอนกลางคืน ก่อนอื่น ดูที่ขนาดของแท่งเทียนนี้ ระยะห่างจากจุดเปิดไปยังจุดปิดจะต้องห่างอย่างน้อย 30 pip หากแท่งเทียนเล็กกว่านั้น ก็เปลี่ยนคู่เทรดไปคู่อื่น คุณไม่มีอะไรต้องทำที่คู่เทรดนี้
นั่นคือช่วงเวลาที่คุณวาดระดับ Fibonacci เราจะใช้มันเพื่อกำหนดจุดเข้าซื้อ การยืดเส้นจากต่ำไปสูงของแท่งเทียนรายวันนั้นถือว่าสำคัญสำหรับกรณีแนวโน้มขาขึ้นหรือจากสูงไปต่ำสำหรับแนวโน้มขาลง
คราวนี้ก็ได้เวลาเปิดออเดอร์ โดยเราจะใช้ pending order ซึ่งขึ้นอยู่กับทิศทางของแนวโน้ม คุณจะต้องเลือกว่าจะเปิดออเดอร์ซื้อหรือขาย โดยวางไว้ที่ระดับต่อไปนี้:
- 23.6
- 38.2
- 50
ให้ความสำคัญกับบริเวณของราคาในช่วงเวลาที่เปิดออเดอร์เพื่อกำหนดประเภทของออเดอร์ ตัวอย่าง การกำหนดแนวโน้มขาขึ้น:
- ตั้งค่า Buy Limit หากราคาอยู่ต่ำกว่าระดับในลิสต์ด้านบน
- ตั้งค่า Buy Stop หากราคาอยู่เหนือระดับดังกล่าว
อย่าลืมตั้งค่า stop loss และ take profit ด้วย บริเวณดังกล่าวจะถูกกำหนดด้วยจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดของแท่งเทียนรายวัน ตัวอย่างเช่น สำหรับแนวโน้มขาขึ้นนั้น stop loss จะถูกตั้งไว้ด้านล่างจุดต่ำสุดและ take profit จะถูกตั้งไว้ด้านล่างจุดสูงสุด
สิ่งที่ควรจำเพิ่มเติม
- คุณอาจใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แทนแท่งเทียนรายวันเพื่อยืนยันแนวโน้ม หากกราฟวิ่งขึ้นก็ตั้งออเดอร์ซื้อ หากวิ่งลงก็ตั้งออเดอร์ขาย
- ใช่ว่า pending order จะถูกประมวลผลทั้งหมด แต่ออเดอร์ที่เปิดก็จะปิดแบบมีกำไร
- หากคุณเปิดออเดอร์ในช่วงเปลี่ยนวันเทรด คุณไม่ควรตั้ง pending order ควรรอจนออเดอร์ปิดก่อน หากออเดอร์ไม่ปิดในสองสามวัน การปิดออเดอร์เองก็สามารถเข้าใจได้ จากนั้นจึงใช้กลยุทธ์ Cherry Blossom ต่อไป
- อย่าลืมลบ pending order เมื่อสิ้นวันหากมันไม่ถูกประมวลผล
- หากมี pending order อย่างน้อยหนึ่งรายการถูกปิดด้วย take profit ก็ควรลบรายการที่เหลือทิ้งไป
สรุป
จุดสำคัญของกลยุทธ์นี้ก็คือคุณจะต้องเปิดออเดอร์หลังจากสิ้นสุดแท่งเทียนรายวันแล้ว ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสที่ตลาดจะเคลื่อนที่ไปใในทิศทางเดียวกันและราคาไม่วิ่งย้อนกลับอย่างฉับพลัน แม้ว่าคุณไม่ใช้กลยุทธ์ “Cherry Blossom” ในแบบสำเร็จรูป คุณก็สามารถใช้ข้อแตกต่างเพียงเล็กน้อยของมันกับกลยุทธ์ของคุณได้ เราขอให้คุณโชคดีสามารถเอาชนะตลาดได้