วันนี้เราจะพูดถึงรูปแบบกราฟที่พบได้ทั่วไปในตลาด นั่นคือ Spike รูปแบบนี้ถูกพูดถึงเป็นครั้งแรกโดย Jack D. Schwager เป็นเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์และเป็นผู้แต่งหนังสือทางการเงินที่รู้จักกันดี เขามองว่าเหตุผลของการเกิดรูปแบบนี้คือมุมมองทางจิตวิทยาของสภาพจิดใจของเทรดเดอร์ ซึ่ง Spike มักจะเกิดในช่วงที่คนในตลาดตื่นตระหนกหรือเกิดจากการกระทำของเทรดเดอร์ตามธรรมชาติที่มีรูปแบบไม่ซับซ้อน
เรามาดูว่า Spike เกิดขึ้นบนกราฟได้อย่างไร รวมถึงวิธีการเทรดและใครที่ควรจะเทรด
รูปแบบ
Spike เป็นรูปแบบของการกลับตัว ประกอบไปด้วยแรงสองแรงที่ตรงข้ามกัน โดยราคามีแรงในด้านซื้อหรือด้านขายเข้ามากระทำ หลังจากนั้นวิ่งกลับไปในทิศทางตรงกันข้าม เมื่อมองบนกราฟจะเห็นรูปแบบเป็นตัว “V”
รูปแบบกราฟนี้มีสองประเภทคือ:
- Spike ขาลง: รูปแบบนี้จะเกิดขึ้นเมื่อมีแรงซื้อเข้ามาและตามมาด้วยราคาตกอย่างรุนแรง รูปแบบนี้จะดูเหมือนเป็นตัว “V” กลับด้าน
- Spike ขาขึ้น: รูปแบบนี้จะตรงข้ามกับรูปแบบที่แล้ว เกิดขึ้นเมื่อมีแรงขายเข้ามาและตามด้วยราคาวิ่งสูงขึ้นอย่างรุนแรง
รูปแบบของ Spike
โดยปกติแล้ว Spike จะเกิดขึ้นหลังจากมีแนวโน้มด้านใดด้านหนึ่งที่แข็งแรงมากและมีการพยายามที่จะหลุดจากแนวรับหรือแนวต้านสำคัญ เมื่อความพยายามที่จะแข็งค่าหรืออ่อนค่าไม่เพียงพอ ราคาก็จะพลิกกลับอย่างฉับพลันจนเกิดเป็น Spike ขึ้น
ลักษณะของ Spike
- ไม่มีราคาวิ่งกระจุกอยู่ที่ด้านบนของ Spike หรืออีกความหมายหนึ่งคือราคาจะวิ่งขึ้นลงระหว่างการเกิดรูปแบบนี้และราคาจะวิ่งแบบหักมุมฉับพลัน
- Spike มักจะให้โอกาสในการทำกำไรสูงเพราะจุดสูงสุดของมันสามารถไปได้ถึง 100 จุดหรือมากกว่านั้น
- บน timeframe ต่ำ Spike จะวิ่งอยู่ที่ประมาณ 5-10 pip แล้วสร้างโอกาสในการเทรดสำหรับเทรดเดอร์ที่มีการเทรดบ่อย
วิธีดู Spike
แม้ว่า Spike จะปรากฏบนกราฟค่อนข้างบ่อย แต่ก็มักจะสังเกตได้ยากมาก :
- Spike มักจะเป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบอื่น ได้แก่ head and shoulders, double bottom, หรือ double top โดยปกติแล้ว จะสังเกตได้เมื่อราคากำลังวิ่งทำรูปแบบกราฟแต่ละแบบ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เนื่องจากรูปแบบเหล่านี้มักประกอบไปด้วย pullback บนกราฟที่สร้างกำไรได้ถูกจังหวะ
- Spike มักจะถูกพบได้ง่ายบนกราฟเส้น
- สำหรับกราฟแท่งเทียน จุดยอดของ Spike มักเกิดจากแท่งเทียน impulse ขนาดใหญ่ (ทั้งแข็งค่าและอ่อนค่า) ซึ่ง pullback จะเกิดหลังจากหมดแท่งไปแล้ว
Spike บนกราฟ
กลยุทธ์การเทรดสำหรับ Spike
เราอยากให้คุณจดเอาไว้เลยว่าการเทรด Spike นั้นมีความเสี่ยงสูง เพราะเป็นกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับผลกำไรจำนวนมาก ในช่วงที่กราฟกำลังทำรูปแบบนี้ สถานการณ์ตลาดจะไปเร็วมาก คุณอาจต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็วซึ่งจำเป็นต้องทำเป็นอัตโนมัติ
การจับช่วงเวลาที่กำลังเกิดการกลับตัวของตลาดเพื่อให้ได้กำไรสูงสุดนั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ทันทีที่เกิดด้านที่สองของ Spike คุณจะต้องเปิดออเดอร์ซื้อสำหรับ Spike ขาลงและเปิดออเดอร์ขายสำหรับ Spike ขาขึ้น
คุณจะต้องตั้งค่าจุดปิดออเดอร์และกำหนดขนาด lot อย่างรวดเร็ว การเข้าเทรดในช่วงเริ่มต้นของ Spike จะทำได้หากคุณทำตามเงื่อนไขของระบบจัดการความเสี่ยงทั้งหมดได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องเท่านั้น
วิธีที่รวดเร็วที่สุดในการคาดการณ์การปรากฏตัวของ Spike ก็คือการใช้ รูปแบบแท่งเทียนพลิกกลับ เช่น engulfing, Doji, belt hold เป็นต้น Spike สามารถก่อตัวขึ้นได้โดยปราศจากรูปแบบเหล่านี้ แต่ถ้ามีรูปแบบเหล่านี้ด้วย สัญญาณจะชัดเจนมากขึ้น การค้นหารูปแบบนี้ในช่วงระหว่างก่อตัวนั้นถือว่ายากมากแต่ก็เป็นเรื่องปกติในตลาด เมื่อเวลาผ่านไปคุณก็จะสามารถหาตำแหน่งยอดของมันได้ค่อนข้างรวดเร็วจากกราฟแท่งเทียนที่ได้กล่าวไปแล้ว
หากคุณสังเกต Spike ดี ๆ เมื่อด้านที่สองของมันเกิดขึ้น คุณก็ไม่ควรเข้าเทรด เนื่องจากมีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะเกิด pullback ในทิศทางตรงกันข้ามในไมช้า ความเสี่ยงในจุดนี้ถือว่ามีสูงเกินไปและปราศจากอัตราความเสี่ยงต่อผลกำไร กำไรที่ควรจะได้รับอาจลดลงอย่างมากหลังจากมีรูปแบบของแต่ละแท่งเทียนระหว่างช่วง pullback
สุดท้ายนี้
Spike ค่อนข้างเป็นรูปแบบทั่วไปในฟอเร็กซ์แต่ไม่ได้เหมาะสมกับทุกคน ก่อนที่คุณจะใช้รูปแบบนี้ได้คุณต้องตัดสินใจว่าคุณจะเป็นเทรดเดอร์ประเภทไหนระหว่างเน้นเสี่ยงหรือเน้นมั่นคง หากคุณเต็มใจที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้กำไรสูง Spike ก็เป็นโอกาสในการเทรดที่เยี่ยมยอดสำหรับคุณ แต่หากคุณยังเป็นผู้เริ่มต้นหรือชอบเสี่ยงระดับปานกลางมากกว่า คุณก็ควรใช้รูปแบบที่เชื่อถือได้รูปแบบอื่นแทน