กราฟคืออะไร?
หัวใจสำคัญ กราฟก็คือสิ่งที่แสดงพฤติกรรมของราคา คุณสามารถตามดูร่องรอยของพฤติกรรมของคู่สกุลเงินในอดีตที่ผ่านมาเป็นระยะเวลายาวนาน เฝ้าดูราคาในปัจจุบัน หรือแม้แต่คาดการณ์การเคลื่อนที่ของมันด้วยการใช้สัญญาณที่หลากหลาย เพราะมีกราฟ เทรดเดอร์จึงสามารถวิเคราะห์เทคนิคและตัดสินใจทางการเงินได้
กราฟจะมาในรูปแบบที่หลากหลายแต่ก็มีโครงสร้างที่คล้ายกันและมีฟังก์ชันเดียวกัน โดยลักษณะของกราฟจะประกอบไปด้วยสองแกนเสมอ :
- แกน X (แนวนอน) แสดงวันที่และเวลา
- แกน Y (แนวตั้ง) แสดงราคา (price หรือ quotation)
ประเภทของกราฟ
กราฟทุกรูปเกือบจะเหมือนกัน ข้อแตกต่างหลักคือลักษณะการแสดงเส้นโค้งการเคลื่อนที่ของราคา โดยเราจะพิจารณารายละเอียดของกราฟสามประเภทหลักดังนี้
กราฟเส้น (Line)
กราฟประเภทนี้เป็นกราฟประเภทแรกในฟอเร็กซ์ ตอนนี้เทรดเดอร์มักไม่ใช้เพราะกราฟนี้ให้ข้อมูลค่อนข้างน้อย โดยจะแสดงเฉพาะจุดเปิดและจุดปิดของช่วงเวลาใหม่ที่เชื่อมต่อกันและเกิดเป็นเส้นขึ้น เทรดเดอร์บางคนใช้กราฟนี้เพื่อกำหนดทิศทางของราคา คุณสามารถดูตัวอย่างกราฟเส้นได้ในรูปภาพด้านล่างนี้
กราฟแท่ง (Bars)
กราฟประเภทนี้ให้ข้อมูลค่อนข้างเยอะ ช่วงเวลาในกราฟจะมีโครงสร้าง OHLC นั่นคือ :
- Open price ราคาเปิด - ขีดด้านซ้าย
- High จุดสูงสุด - ขอบบนสุด
- Low จุดต่ำสุด - ขอบล่างสุด
- Close price ราคาปิด - ขีดด้านขวา
โครงสร้างนี้ทำให้กราฟประเภทนี้มีข้อมูลค่อนข้างเยอะ เทรดเดอร์มักใช้จุดสูงสุดและจุดต่ำสุดเพื่อวาดเส้นแนวรับและแนวต้านที่จะช่วยในการวิเคราะห์กราฟได้ นอกจากนี้ยังใช้ตั้ง stop loss และ take profit เป็นต้น สำหรับกราฟที่มีหลากสีสัน แท่งซื้อจะถูกแสดงเป็นสีเขียวและแท่งขายจะถูกแสดงเป็นสีแดง คุณสามารถดูตัวอย่างกราฟนี้ได้ในภาพด้านล่าง
กราฟแท่งเทียนญี่ปุ่น (Japanese Candles)
Steve Nison คือบุคคลแรกที่กล่าวถึงกราฟนี้ในตลาดตะวันตก เขาได้ความคิดนี้มาจากผู้เทรดข้าวญี่ปุ่น กราฟแท่งเทียนมีโครงสร้าง OHLC เช่นเดียวกับกราฟแท่ง (bars) แต่เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ตัวกราฟจะเป็นระยะห่างจากราคาเปิดถึงราคาปิดและส่วนหากที่แสดงจุดสูงสุดและจุดต่ำสุด โดยแท่งเทียนซื้อจะโปร่ง (หรือเป็นสีเขียว) ส่วนแท่งเทียนขายจะทึบ (หรือเป็นสีแดง)
กราฟประเภทนี้เป็นกราฟที่ใช้กันโดยทั่วไปในหมู่เทรดเดอร์ วิธีการวิเคราะห์ด้านเทคนิคหลายวิธีถูกพัฒนามาจากกราฟแท่งเทียนนี้ โดยประกอบไปด้วยการค้นหาสัญญาณที่แตกต่างกัน เช่น รูปแบบ head and shoulders, triangle, double/triple bottom และ double/triple top ซึ่งเราจะถูดถึง รูปแบบ เหล่านี้ในบทความอื่น
วิธีใช้กราฟในการเทรด
เทรดเดอร์ส่วนมากนิยมเทรดตามแนวโน้ม ซื้อเมื่อมีแนวโน้มแข็งค่าและขายเมื่อมีแนวโน้มอ่อนค่า จะทำอย่างไรหากกราฟมีทิศทางไม่ชัดเจนและวิ่งในลักษณะราบเรียบ (sideway) ?
ก่อนอื่นจะต้องเรียนรู้วิธีกำหนดกรอบของตลาด โดยการเปิดกราฟรายวันแล้ววาดเส้นแนวรับและแนวต้านที่จุดต่ำสุดและจุดสูงสุด หากตลาดไม่สร้างระดับไต่ขึ้นหรือลดลงและวิ่งอยู่ระหว่างเส้นแนวนอนสองเส้น ก็แสดงว่าตลาดมีความราบเรียบ (sideway) คุณสามารถวัดเส้นแนวโน้มให้ชัดเจนด้วยการใช้ดัชนีทิศทางการเคลื่อนที่ของราคาโดยเฉลี่ย (Average Directional Movement : ADX) หากอินดิเคเตอร์อยู่ต่ำกว่า 25 ก็หมายความว่าไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจนในตลาด
สิ่งที่ควรทำหากต้องพบกับตลาด sideway :
- เมื่อราคาวิ่งอยู่แถวแนวรับ คุณจะต้องเปิดออเดอร์ซื้อแล้วตั้ง stop loss ไว้ใต้แนวรับนั้น
- ในบริเวณแนวต้าน คุณควรเปิดออเดอร์ขายแล้วตั้ง stop loss ไว้เหนือระดับนี้ทันที
ข้อสรุป
กราฟเป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้ที่จะช่วยให้คุณสามารถตามดูการเคลื่อนที่ของราคาในอดีตและปัจจุบันเพื่อนำมาคาดการณ์พฤติกรรมในอนาคตได้ กราฟที่นิยมใช้กันมากที่สุดก็คือกราฟแท่งเทียนซึ่งประกอบไปด้วยวิธีการวิเคราะห์ทางเทคนิคอยู่มากมาย ประกอบไปด้วยการกำหนดแนวโน้มหลักที่หลากหลายด้วยรูปแบบที่กำหนด
สำหรับการเทรดที่ดีนั้น มีความจำเป็นที่จะต้องศึกษาให้รู้จักสัญญาณทั้งหมดและเรียนรู้วิธีปรับใช้กับการเทรดของคุณเอง ขั้นตอนแรกของการฝึกฝนจึงควรใช้บัญชีเดโมในการทดลอง หลังจากศึกษาไปราวสองเดือนคุณจะเริ่มคุ้นเคยกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ในตลาดและเรียรรู้วิธีหารายได้จากมัน